ไอติมบาหยัน ขายง่าย กำไรงาม

ไอติมบาหยัน

เป็นไอติมกะทิสดใส่ในผลไม้ เช่น มะพร้าว มะม่วง ทุเรียน แคนตาลูป แตงโม เป็นไอติมที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ไม่มีใครเหมือน สำหรับท่านที่กำลังหาอาชีพเสริมหรือลงทุนขายของ ลงทุนน้อย คืนทุนเร็ว ขายง่าย กำไรงาม
ผมล้มลุกคลุกคลานมาเยอะแล้ว ลองผิดลองถูกมาก็มาก เพิ่งค้นพบว่าจะต้องทำอย่างไรในการขายไอติมให้ประสบความสำเร็จ ถ้าเป็นเรื่องของไอติม ผมสรุปมาให้แล้ว มารวยไปด้วยกันเลยครับ ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องปวดหัว เพียงแค่เปิดใจรับไอติมบาหยันไปขายลองดู แล้วท่านจะรู้ว่าบางครั้งก็ไม่ต้องคิดอะไรมาก...

ก่อนอื่นดูคุณสมบัติที่จะร่วมลงทุนกับไอติมบาหยันกันครับ หากท่านมีคุณสมบัติที่ว่าแล้ว มารวยไปด้วยกันเลยครับ...

1. ทำเล ที่ตั้งร้าน หากท่านมีทำเลหรือพื้นที่ขนาด 2×2 เมตร คนผ่านหน้าร้านเยอะ โดยคิดประมาณแล้ว คิดว่าน่าจะขายได้ไม่ต่ำกว่า 100 ถ้วย อาจจะเป็นห้างสรรพสินค้า บิ๊กซี โลตัส ตามปั้มน้ำมัน มหาวิทยาลัย แหล่งท่องเที่ยว ถือว่าดีเลยครับ

2. กำลังมองหาธุรกิจเป็นของตัวเอง แต่ไม่รู้จะทำอะไรดี พร้อมที่จะลงทุน ลองเปิดใจแล้วมาลงทุนด้วยกันสิครับ
3. ต้องการให้เงินทำงาน มีความคิดตามแนวทางเดียวกัน คือ ให้เงินทำงานแทนเรา เป็นการใช้เงินที่มีไปสร้างประโยชน์ แล้วเงินนั้นได้ผลตอบแทนกลับมาเป็นเงินสด

ถ้าพร้อมที่จะรวยไปด้วยกัน มาเลยครับ (ท่านขยายสาขาตัวเองได้)

สำหรับราคาแฟรนไชส์ที่ท่านซื้อจากเรานั้น ราคา 25,000 บาท พร้อมเปิดร้านได้ทันที โดยในราคานี้มีอะไรบ้าง ไปดูรายละเอียดกันเลยครับ

ถังไอศครีม ขนาด 80 ลิตร ราคา 5,500 บาท
ตู้แช่ ราคา 8,000 บาท
เต้นท์ ราคา 1,300 บาท
ลูกตัก ราคา 200 บาท
โต๊ะ ราคา 1,200 บาท
ป้าย ราคา 1,500 บาท
เกลือ 100 บาท
แคนตาลูป ราคา 1,200 บาท
ไอติม 1 ถัง ราคา 750 บาท แถมฟรี ! ไอติมอีก 1 ถัง
อุปกรณ์อื่นๆ ราคา 500 บาท
ค่าแรกเข้า 5,000 บาท พร้อมขายได้เลยครับ

หมายเหตุ : สำหรับท่านที่มี โต๊ะ เต้นท์ ตู้แช่ แล้วไม่เอาก็ได้ครับ

เมื่อท่านซื้อแฟรนไชส์จากเราไปแล้ว เราไม่ทอดทิ้งท่านแน่นอน

พร้อมสอนการขายและแนะนำวิธีการขายต่างๆ จนกว่าท่านจะสามารถขายได้เอง

ขอแค่ท่านเปิดใจและไว้วางใจเราครับ...

ต่อไปเรามาดูรายได้จากการขายไอติมบาหยันกันดีกว่า โดยไอติม 1 ถัง มีนำหนัก 9 กิโลกรัม สามารถตักขายได้ประมาณ 100 - 150 ถ้วย โดยขายในราคา 40 - 45 บาท แล้วแต่พื้นที่หรือทำเลขาย ซึ่งเราคิดต้นทุนมาให้ท่านแล้ว ดังนี้

กรณีที่ 1 ต้นทุนที่การขาย 100 ถ้วย (แคนตาลูป 50 ลูก ขายได้ 100 ถ้วย)

ต้นทุนอยู่ที่ 2,200 บาท

กรณีที่ 2 ต้นทุนที่การขาย 150 ถ้วย (แคนตาลูป 75 ลูก ขายได้ 150 ถ้วย)

ต้นทุนอยู่ที่ 2,575 บาท

จากนั้น เรามาดูรายรับจากการขายไอติมบาหยันกันดีกว่าครับ

กรณีที่ 1 ถ้าเราขายได้ 100 ถ้วย ราคาถ้วยละ 40 บาท จะได้ 4,000 บาท

กรณีที่ 2 ถ้าเราขายได้ 150 ถ้วย ราคาถ้วยละ 40 บาท จะได้ 6,000 บาท

เรามาสรุปกำไรหลังจากหักต้นทุนแล้วกันดีกว่า

ถ้าเราขายได้ 100 ถ้วย

กำไรที่เราได้คือ 4,000 (รายรับ) - 2,200 (ต้นทุน) = 1,800 (กำไร)

ถ้าเราขายได้ 150 ถ้วย

กำไรที่เราได้คือ 6,000 (รายรับ) - 2,575 (ต้นทุน) = 3,425 (กำไร)

ยิ่งเราขายได้มากเท่าไหร่ เราก็จะเห็นกำไรมากเท่านั้น เพราะ เราจะประหยัดค่าเช่าที่ ค่าแรง ค่าเกลือ ค่าน้ำแข็ง

ข้อดีของไอติมบาหยัน
1. ลงทุนน้อยคืนทุนไวมาก จนไม่น่าเชื่อว่านี้คือการลงทุน คืนทุนภายใน 1-2 วัน
2. รสชาติเฉพาะไม่เหมือนใคร หอม อร่อย หวานมัน เป็นเอกลักษณ์ของไอติมบาหยัน ยากต่อการลอกเลียนแบบ

3. ไม่ยุ่งยากในการเตรียมของในการเปิดร้านก่อนขายหรือปิดร้านเก็บร้าน
4. ของไม่เน่าเสียง่าย เก็บไว้ได้นาน
5. ขายง่าย กำไรงาม สะดวกสบายในการบริหารจัดการ ใช้คนขายแค่คนเดียว
6. ใช้พื้นที่ในการขายน้อย ประมาณ 2×2 เมตร ก็ตั้งร้านได้แล้ว ประหยัดงบประมาณในการเช่าพื้นที่ขายไม่ต้องเช่าห้องเช่าร้านใหญ่
7. สามารถขยายสาขาของตัวเองได้ ลงได้หลายจุด ลงมากได้มาก
8. ขายสนุกเหมือนเล่นขายของ เหมือนไม่ได้ทำงาน เหมือนรอรับเงินจากลูกค้า
9. เป็นธุรกิจที่ลงทุนน้อยมาก อีกอย่างเราเป็นเจ้าของเอง บริหารจัดการเองได้ทั้งหมด

รับประกันยอดขาย ขายไม่ได้ยินดีรับซื้อคืนอุปกรณ์ต่างๆ คืนครับ

สเตปการร่วมลงทุนกับไอติมบาหยันท่านจะรวยอย่างไร มาดูคร่าวๆ นะครับ

1. หาทำเล เปิดสาขาแรก ขายไอติมไม่ต้องดูลูกค้านานครับ ดูวันแรกนี้เลย ยอดได้ขายดีก็ยิ้มรับทรัพย์ไปเลยครับ ยอดจะคงที่จะเพิ่มและลดไม่มาก กำไรเท่าไหร่ถ้าขายหมดคงไม่ต้องบอกนะครับ ตามรายละเอียดที่ให้ไว้ข้างบน ทำยอดแค่ 150 คนต่อวัน กำไร 1,800 – 3,500 บาท แค่ตักขาย ง่ายขนาดนี้จริงๆ ครับ

2. หาขยายจุดลงต่อเลยครับ ถ้าพอใจแค่จุดเดียวก็พอครับ แต่ถ้ายังไม่พอก็ลงต่อครับ รายได้คูณสอง แค่สองจุดทำยอดได้แค่นี้เดือนเดียวรับเงินแสนไปเลยครับ ไม่ใช่ธุรกิจขายตรงขายฝันครับ เป็นธุรกิจของท่านที่จับต้องได้จริงๆ ครับ

3. ข้อดีของไอติมบาหยันคือ ใช้คนน้อยในแต่ละจุด คนขายแค่คนเดียว ลงทุนน้อย ดูแลเช็กของง่ายไม่ยุ่งยาก ยังไม่พอก็ 3 จุด ต่อไปเรื่อยๆ ขึ้นอยู่กับความพอใจของท่านเองครับ

ที่กล่าวมาทั้งหมดคือทำยอดได้จริงนะครับ ไม่ได้ขายฝัน เพียงแต่ผมขอมอบโอกาสนี้ให้กับคนที่กำลังมองหาช่องทางในการทำธุรกิจ เป็นกำลังหลัก หนุนอยู่ข้างหลังให้ท่านได้ประสบความสำเร็จ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับไอติม ผมได้สรุปให้ท่านไว้เรียบร้อยแล้ว โดยไม่ต้องมาลำบากหรือเสี่ยงขาดทุนเหมือนกับผม

ประสบการณ์ในการทำงานของผมหลังจากเรียนจบและความเป็นมาของไอติมบาหยัน...
1. เจ้าหน้าที่ปกครอง กระทรวงมหาดไทย 1 ปี (ลาออก รู้สึกมันไม่ใช่ตัวตนตัวเอง ทำงานเหมือนหุ่นยนต์)
2. เป็นเซลขายของให้โรงงานอุสาหกรรม และได้เลื่อนขึ้นเป็นเซลล์ซุปเปอร์ไวเซอร์ใน 2 ปี (ต้องการประสบการณ์ด้านการขายและก็ทำได้ดี) เมื่อประสบการณ์ด้านการขายเพียงพอแล้ว ก็มาทำตามหัวใจเรียกร้องของตัวเอง
3. ถีบจักรยานซาเล้งขายไอติม 1 ปี (เทวดาตกสวรรค์ อยากเรียนรู้วิถี และแก่นของการเป็นพ่อค้าไอติมตัก ฮาๆ) ทุกคนลงความเห็นว่าผมบ้าไปแล้ว เช้าปั่นถีบไปขาย เย็นถีบกลับบ้าน แต่แปลกนะที่ตัวเองกลับมีความสุขในการขาย ได้เจอเพื่อนร่วมอาชีพ พ่อค้าแม่ค้า หนีเทศกิจก็มี ชวนไปเป็น รปภ. ก็มี
4. ขับมอเตอร์ไซต์พ่วงขายไอติม 1 ปี ออกใหม่เลย ขี้เกียจปั่นแล้ว เลยขอลองขับมอเตอร์ไซต์ขายดูบ้าง ได้ประสบการณ์เยอะแยะ แปลกมากๆ ฝนตกผมก็ขาย แดดออกก็ขาย หนาวผมก็ยังขาย น้ำท่วมเมืองเลยยังไปขาย ฮาๆ
5. ถึงเวลาทำร้านซะที เปิดร้านไอติม 8 ปี เริ่มทำร้าน ร้านข้างๆ ถามว่าจะทำร้านขายอะไร ผมบอกว่าจะขายไอติมกะทิสด เขาคงจะงง ว่าขายไอติม ต้องทำร้านใหญ่ขนาดนี้เลยเหรอ เปิดขายได้ 3 วัน ลมแทบจับ ทำขายไม่ทัน รับน้องนักศึกษามาช่วยขาย ตอนแรก 1 คน เพิ่ม 2 เป็น 3 ก็ยังทำขายไม่ทัน จนมีพนักงานในร้านถึง 5 คน ณ ปัจจุบัน ล้างจาน 1 ตักไอติม 1 เสริฟ 2 ทำน้ำ 1

6. ยกร้านไอติมให้คุณน้าทำต่อ ร้านที่มีรายได้ต่อวันเท่ากับเงินเดือนคนจบปริญญาตรีใหม่ๆ เพราะคิดว่าตัวเองเลยจุดที่จะต้องทำอยู่ตรงนี้ ทุกคนลงความเห็นว่าโง่ ฮาๆ เดี๋ยวนี้ไม่รู้ว่ายอดขายเท่าไหร่นะครับ รู้เพียงว่าตอนนี้ครอบครัวคุณน้าได้มาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน พ่อแม่ลูก ช่วยกันขายของ หลังจากที่เมื่อก่อนเช้ามาต้องออกคนละทิศละทางเพื่อหาเงิน
7. ส่วนตัวเองนะเหรอครับ เร่รอนขายไอติมสิครับ ฮาๆ ไปเรื่อยเพราะยังค้นไม่พบอะไรยังไง
8. และแล้วสิ่งที่ตามหามานานมาก ก็เจอมันคือ “แคนตาลูป” ฮาๆ ใช่แล้วครับ ไอติมใส่แคนตาลูป วันที่เจอแตงแคนตาลูป เป็นวันที่แย่ที่สุดในชีวิตและก็เป็นวันที่ดีที่สุด แย่คือเรายังไม่ประสบความสำเร็จซะที ทั้งๆ ที่มันก็นานแล้ว ส่วนเป็นวันที่ดีที่สุดก็คือได้ค้นพบแล้วกับสิ่งที่ตามหามานาน